Site icon บจก.ณรงค์ไมโครสปัน | ไมโครไพล์ | micropile แบบครบวงจร

ซื้อบ้านมาแล้วแต่อยากกั้นห้องเพิ่มต้องทำอย่างไร? ใช้ผนังเบาแบบไหนดี

3d rendering. modern simple minimal white panel corner room wall design background.

หนึ่งในทางเลือกที่นิยมนำมาใช้กั้นห้องเพื่อแบ่งพื้นที่เพิ่มเติมคือการเลือกใช้ “ผนังเบา” เพราะมีน้ำหนักเบาไม่ต้องมีคานรองรับ หาซื้อได้ง่ายและราคาไม่แพง ใช้เวลาติดตั้งไม่นาน และมีให้เลือกหลากหลายชนิด ตั้งแต่แผ่นยิปซัม แผ่นไฟเบอร์ซีเมนต์หรือสมาร์ทบอร์ด ถ้าเช่นนั้นเวลาให้ผู้รับเหมาเข้ามาทำต้องตรวจดูงานอะไรบ้าง ถึงจะทำให้คุณได้ผนังกั้นห้องใหม่ที่สวยถูกใจ เพราะหากได้ช่างไม่เก่งพอ คงได้ผนังบ้านที่น่าหนักใจขึ้นมาแทน จนอาจคิดว่าไม่น่ากั้นห้องเลย อย่ากระนั้นเลย admin มีคำแนะนำในการตรวจงานผนังเบาว่ามีขั้นตอนการดูอย่างไรบ้าง โดยแต่ละขั้นตอนมีรายละเอียดต่างๆ ดังนี้ครับ

เลือกผนังเบาและตรวจของก่อนติดตั้ง

การกั้นห้องต้องระบุกับผู้รับเหมาว่าต้องการกั้นห้องเพื่อใช้ทำเป็นห้องอะไร เพื่อเลือกใช้ผนังเบาที่มีชนิดและความหนาที่เหมาะสม ถ้าเป็นการเสริมผนังอีกชั้นเพื่อทำเป็นผนังกันความร้อนก็จะมีฉนวนอยู่ข้างใน หรือ ต้องการห้องที่เก็บเสียงก็ต้องเลือกแผ่นที่มีความหนามากหน่อย และผนังเบาแต่ละชนิดก็มีคุณสมบัติและข้อดีต่างกัน อาทิ แผ่นไฟเบอร์ซีเมนต์มีข้อดีที่สามารถทนแดดทนฝนได้จึงเหมาะใช้ภายนอก ส่วนแผ่นยิบซัมนั้นน้ำหนักเบา มีราคาถูกกว่า และมีความเรียบเนียนของผิวแผ่นทำให้ฉาบเก็บรอยได้ดี ตรงนี้ก็อยู่ที่ช่างหรือผู้ออกแบบแนะนำว่าควรเลือกใช้แบบไหน ซึ่งก็ควรจะเหมาะสมกับห้องที่เราต้องการ แต่แน่นอนว่ายิ่งหนายิ่งดี … แต่ก็จะยิ่งแพงครับ

เมื่อเลือกผนังเบาได้แล้ว เมื่อช่างไปซื้อของมา ก็ต้องตรวจวัสดุที่ช่างนำมาใช้ว่ามีขนาดและความหนาที่ตรงกับที่คุยกันหรือที่สเปคหรือไม่ ตัวอย่างเช่น แผ่นสมาร์ทบอร์ดจะมีขนาดมาตรฐาน 1.20 x 2.40 เมตร มีความหนาตั้งแต่ 4-24 มิลลิเมตร แต่สำหรับงานกั้นผนังในบ้านนิยมใช้ความหนา 4-8 มิลลิเมตร ส่วนผนังนอกบ้านนิยมใช้ความหนา 10-12 มิลลิเมตร เพื่อความแข็งแรงที่มากกว่าผนังในบ้าน ส่วนความหนา 20-24 มิลลิเมตรนั้นจะใช้ทำพื้นครับ

เลือกโครงคร่าวให้เหมาะกับผนังเบา

ต่อมาก็เป็นการตรวจโครงคร่าวที่จะนำผนังเบาไปติด การเลือกก็ควรเลือกให้สอดคล้องกับความหนาและความหนักของผนังเบา ถ้าเลือกผนังเบาที่มีน้ำหนักมากก็ควรเลือกใช้โครงคร่าวที่หนาหน่อย และหากในแบบมีประตูวงกบที่มีขนาดใหญ่กว่าปกติ ก็ต้องเลือกโครงคร่าวที่มีขนาดความกว้างพอดีกับวงกบด้วย โครงคร่าวสำหรับนำมาใช้กับผนังเบาจะมีโครงคร่าวไม้และโครงคร่าวเหล็กชุบสังกะสี (โครงกัลวาไนซ์) ซึ่งโครงคร่าวเหล็กชุบสังกะสีจะนิยมกันมากกว่าเพราะมีราคาถูกและติดตั้งได้ง่ายกว่า

อย่างไรก็ตามควรให้ช่างเลือกใช้โครงคร่าวที่มียี่ห้อ เพราะจะมีคุณสมบัติที่รับน้ำหนักได้ดี ไม่ผุกร่อน และเป็นสนิมได้ยากกว่าแบบโครงคร่าวราคาถูกที่ค่อนข้างบางและเป็นสนิมได้ง่าย สำหรับคนที่ไปซื้อวัสดุเอง ระวังสั่งจำนวนโครงตัวยู (U) กับ โครงตัวซี (C) มาสลับกัน โดยโครงตัวยูจะใช้เป็นฐานโครงคร่าวล่างและบนเท่านั้น แต่โครงตัวซีจะใช้สำหรับวางแนวตั้งและแนวนอนซึ่งจะใช้ปริมาณมากกว่า

ตรวจดูการติดตั้งโครงคร่าวก่อนติดตั้งผนังเบา

การตรวจขั้นตอนการขึ้นโครงคร่าว ก่อนอื่นให้ตรวจดูว่าช่างมีการวางตำแหน่งการกั้นห้องและเว้นช่องสำหรับติดตั้งวงกบประตูที่ถูกต้อง โดยดูจากเส้นอ้างอิงที่ช่างจะเขียนไว้ที่พื้นก่อนการติดตั้งโครงตัวยูที่จะใช้ยึดเป็นฐานของโครงคร่าว ถ้าถูกตำแหน่งแล้วจึงให้ช่างดำเนินการติดตั้งต่อได้

ต่อมาให้ดูรูปแบบการติดตั้งของโครงคร่าวว่าถูกต้องตามหลักการหรือไม่ เพื่อให้โครงคร่าวมีความแข็งแรง โดยโครงตัวซีแนวตั้งต้องมีระยะห่างกัน 60 เซนติเมตร เพื่อให้พอดีกับระยะยึดแผ่นผนังโครงเบาหัวท้ายที่มีความกว้าง 120 เซนติเมตร และส่วนที่จะมีการแขวนเครื่องปรับอากาศหรือรูปภาพหนักๆ ต้องมีการเสริมโครงคร่าวมากขึ้นเพื่อให้สามารถรับน้ำหนักได้มากขึ้น เช่น อาจจะลดระยะห่างของโครงตัวซีเป็น 30-40 เซนติเมตร

ทั้งนี้การยึดโครงคร่าวเข้าด้วยกันควรให้ช่างใช้สกรูฐานแบนหรือสกรูชนิดสำหรับการยึดโครงคร่าว และเมื่อติดตั้งโครงคร่าวเสร็จ ต้องสุ่มตรวจสอบระยะดิ่งของโครงคร่าวโดยใช้ตัวจับระดับน้ำ เพื่อป้องกันผนังเอียง ถ้าวางโครงคร่าวเอียงก็ต้องให้ช่างแก้ไขก่อนการติดตั้งผนังโครงเบา

ตรวจดูการติดตั้งผนังเบา

การตรวจขั้นตอนการติดตั้งผนังเบาเข้ากับโครงคร่าว ให้ตรวจดูว่ามีการเจาะยึดแผ่นผนังเบาด้วยสกรูที่ริมแผ่นและกลางแผ่นหรือไม่ และต้องเจาะยึดโดนตัวโครงคร่าวด้วย อีกทั้งควรใข้สกรูสำหรับการยึดแผ่นยิปซัม ได้แก่สกรูปลายสว่านแบบมีปีก ซึ่งจะช่วยให้สามารถเจาะและซ่อนหัวสกรูได้ดีกว่า ไม่เห็นหัวสกรูโผล่มา หลังจากยึดแผ่นยิบซัมกับโครงคร่าวแล้วก็ตรวจดูการเก็บงานของช่าง ในการใช้ปูนฉาบรอยต่อและเก็บรอยหลุมสกรูว่าสามารถเก็บงานได้อย่างเรียบร้อยหรือยัง แล้วสุดท้ายก็ตรวจการทาสีรองพื้นและสีผนังว่าทาได้สวยงาม มีความเรียบเนียนเท่ากันทั้งผนังหรือไม่ เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จพิธีครับ

ก็ทราบกันไปแล้วกับขั้นตอนการตรวจผนังเบา ซึ่งไม่ได้ยุ่งยากอะไรเลยนะครับ แต่ที่สำคัญคืออยากให้ท่านเจ้าของบ้านมาตรวจดูในช่วงติดตั้งด้วย เพราะจะได้เห็นการเลือกใช้โครงคร่าวด้านในซึ่งจะเป็นส่วนที่เรามองไม่เห็นเมื่องานแล้วเสร็จว่า ช่างมีฝีมือในการทำงานอย่างไร ตั้งโครงคร่าวถูกต้องตามหลักการไหมเพราะจะมีผลกับความแข็งแรง นี่ก็จัดว่าเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับใครที่กำลังอยากจะกั้นห้องเพิ่ม แถมยังสามารถติดตั้งผนังเบาทับผนังเดิมได้เพื่อเพิ่มการกันเสียงและความร้อนเข้าไปได้อีก ก็เสนอไว้เป็นอีกวิธีในการปรับปรุงบ้านแสนรักของคุณครับ

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ บริษัท ณรงค์ ไมโครสปัน จำกัด

https://www.narongmicrospun.com

https://www.narongmicropile.com

https://www.facebook.com/narongmicrospun

Tel : 02-159-8480

Mobile : 081-309-7695 , 086-413-3862

ที่มา https://www.baania.com/article/อยากกั้นห้องเพิ่มต้องทำอย่างไร-แล้วต้องใช้ผนังเบาแบบไหนดี-article_3086

ซื้อบ้านมาแล้วแต่อยากกั้นห้องเพิ่มต้องทำอย่างไร? ใช้ผนังเบาแบบไหนดี
Exit mobile version